คุณพ่อคุณแม่เคยถามลูกมั๊ยคะว่า "โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร" คำตอบที่ได้พอใจคุณพ่อคุณแม่มั๊ยคะ ถ้าสมมติว่าลูกเราตอบว่า "หนูอยากเป็นยูทูบเบอร์ครับ/ค่ะ" คุณพ่อคุณแม่ดีใจหรือกุมขมับคะ วันนี้เราไปดูการจัดอันดับของเด็กญี่ปุ่นว่าโตขึ้นเค้าอยากจะเป็นอะไรกันค่ะ โดยข้อมูลอ้างอิงจากการสำรวจเด็กประถม มัธยมต้น มัธยมปลายทั่วประเทศของDai-ichi life group บริษัทประกันชีวิตชื่อดังของญี่ปุ่น โดยจะขอยกมาเฉพาะของเด็กประถมนะคะ
อาชีพใหม่ที่มาแรงของยุคนี้จริงๆค่ะ สำหรับยูทูบเบอร์ แต่คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านก็มองว่าอาชีพนี้ไม่มั่นคง เป็นเรื่องที่เสียเวลาไร้สาระและก็คงไม่อยากจะให้ลูกของตัวเองทำอาชีพนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องรู้ว่า จริงๆแล้วถ้ามองในด้านการเรียนการศึกษา การทำคลิปยูทูบนั้นเป็นความสามารถที่มีประโยชน์มากเวลาที่ลูกของเราเข้าสู่วัยทำงาน ความสามารถเพื่อให้ไม่แพ้AI โดยเรียนรู้ผ่านการทำคลิปยูทูบ
เค้าอาจจะมีโอกาสได้ทักษะที่มีประโยชน์ในวัยทำงานจากการทำคลิปยูทูบก็เป็นได้
คงเคยได้ยินกันแล้วว่าในอนาคตAIจะมาแย่งงานคน จนทำให้หลายๆอาชีพไม่ต้องพึ่งคนอีกต่อไป ซึ่งอาชีพที่จะเหลืออยู่และจำเป็นในอนาคตก็คืออาชีพที่ควบคุมและใช้งานAI และการจะเป็นได้นั้นต้องเป็นคนที่ไม่ใช่แค่รอคำสั่งแล้วทำ แต่ต้องเป็นคนที่เริ่มคิดและเริ่มทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งสำคัญคือการให้มีประสบการณ์ในการท้าทายบางสิ่งที่ตัวเค้าสนใจตั้งแต่เด็กๆความสามารถที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ความคิดสร้างสรรค์" ซึ่งการจพทำคลิปยูทูบได้นั้นต้องมีสองสิ่งคือ ความคิดสร้างสรรค์และความมุ่นมั่นที่ทำสิ่งใดๆด้วยตัวเองการจะทำคลิปยูทูบได้1คลิป ก็แบ่งออกเป็นขั้นตอนใหญ่ๆได้3ขั้นตอน คือ คิดโปรเจค, ถ่ายคลิปวีดีโอ, ตัดต่อ ซึ่งจุดที่สำคัญที่สุดของคลิปก็คือ การคิดโปรเจค คิดคอนเทนท์ถ้าคิดโปรเจคตอนเริ่มไม่ดี พอมาถึงตอนตัดต่ออาจจะพบว่าเนื้อหาไม่ครลตามที่ต้องการ ลืมถ่ายวีดีโอไปบางส่วน ทำให้ต้องเสียเวลาถ่ายเพิ่มหรือถ่ายแก้ใหม่ ดังนั้นจากการที่เด็กได้มีประสบการณ์แบบนี้ จะทำให้เค้ารับรู้ถึงความสำคัญของการคิดวางแผน ซึ่งอาจจะเรียนรู้ได้ยากกับการใช้ชีวิตปกติทั่วๆไป ได้ความสามารถเพื่อตัวเองแล้วยังได้ความสามารถเพื่อคนอื่นด้วยถ้าเด็กอยากทำคลิปยูทูบ ก็ไม่ใช่แค่จะทำคลิปที่ตัวเองอยากทำเท่านั้น แต่อยากจะให้ทำเป้าหมายขึ้นมาด้วย โดยเฉพาะเป้าหมายที่เป็นตัวเลขที่เห็นได้ชัดเจน เช่น ภายใน1เดือนต้องมีคนมาดู100คน เป็นต้นแล้วทำไมถึงต้องตั้งเป้าหมายด้วยล่ะ เพราะว่าเวลาที่ลูกของเราเข้าสังคมการทำงานในอนาคต สิ่งที่สำคัญที่อยากจะให้มองไม่ใช่แค่ว่า "อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ" แต่ต้องมองด้วยว่า "สิ่งที่เราทำมีประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่"การจะทำคลิปให้มีคนมาดูมากๆ ไม่ใช่แค่การคิดว่าตัวเองอยากจะทำคลิปแบบไหน แต่จำเป็นต้องคิดถึงคนที่มาดูคลิปของเราด้วยเช่น เค้าสนใจอะไร, จะตั้งชื่อคลิปอย่างไรให้คนอยากดู เป็นต้น ซึ่งสิ่งนี้คือความสามารถในการคิดถึงคนอื่นด้วย และเป็นสิ่งที่ยากที่จะคิดถึงสิ่งนี้สำหรับเด็กๆที่ใช้ชีวิตปกติทั่วๆไป แต่ความเป็นจริงของยูทูบเบอร์นั้นเป็นอาชีพที่ไม่ง่ายเลย
แล้วเป็นยูทูบเบอร์เนี่ย จะมีกินมีใช้รึป่าวเนี่ย??ถ้าลูกของคุณบอกว่าอยากเป็นยูทูบเบอร์ แต่คุณอยากที่จะเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวให้ลูกเลิกฝันถึงการเป็นยูทูบเบอร์ จะบอกกับลูกว่า "ยูทูบเบอร์มันไม่ใช่อาชีพหรอก เป็นยูทูบเบอร์ก็ไม่มีรายได้ที่แน่นอน ไม่มีความมั่นคงในชีวิต สู้ไปทำงานข้าราชการดีกว่าชีวิตมั่นคงกว่าเยอะ" แบบนี้มันเป็นแค่ความคิดเห็นของผู้ใหญ่ที่ยัดเยียดให้กับลูกหรือไม่คะ ถ้าคุณไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับยูทบเบอร์ ก็เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะเกลี้ยกล่อมได้สำเร็จหรอกค่ะเรามาดูเรื่องจริงของอาชีพยูทูบเบอร์ที่คนให้คำจำกัดความว่า "ทำเรื่องสนุกๆก็ก็หาเงินได้" กันค่ะ ว่าจริงๆแล้วมันไม่สนุกเลยค่ะการที่ยูทูบเบอร์จะหาเงินได้นั้นจำเป็นต้องผ่านมาตรฐานอย่างหนึ่งก่อนก็คือ ต้องมีคนที่ติดตาม1000คนและต้องมีจำนวนชั่วโมงที่คนมาเปิดดูรวมกัน4000ชั่วโมงภายใน1ปี และดูเหมือนว่า90%ก็ท้อใจและเลิกเป็นยูทูบเบอร์ไปเองจากมาตรฐานนี้ไม่ใช่แค่นั้น!! ถึงแม้ว่าจะผ่านมาตรฐานนี้มาได้ แต่เป็นเรื่องยากมากที่จะหาเลี้ยงชีวิตจากอาชีพยูทูบเบอร์เพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆค่ะถ้ามีคนกดติดตาม40000คนและมีคนมาเปิดดูรวม35000ชั่วโมงภายใน1เดือน รายได้จะอยู่ที่ประมาณ40,000-55,000บาท (แต่ไม่ใช่ว่าทุกเคสจะเหมือนกัน อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างค่ะ) แล้วถ้าไม่ลงคลิปต่อเนื่อง คนที่มาดูก็จะลดลงไปอีก และแน่นอนว่าการทำคลิป1ตัวนั้นต้องใช้ทั้งเวลาและพลังกายมากพอสมควร ยูทูบเบอร์จึงเป็นอาชีพที่ยากพอสมควรเลยค่ะ และถึงจะเป็นแบบนั้น การที่ให้เด็กได้ลองทำนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ
การให้เค้าได้ลองทำเป็นสิ่งสำคัญ
ถ้าลูกของเราสนใจที่อยากจะเป็นยูทูบเบอร์ ก็ให้เค้าได้ลองทำดูเลยค่ะ สำคัญคือควรต้องมีกฏที่ตกลงทำความเข้าใจกันทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกนะคะ อย่างเช่น ห้ามให้เห็นหน้าหรือให้ใช้เวลาในการทำคลิปวันละ1ชั่วโมงเป็นต้นลองให้เค้าตั้งเป้าหมายจำนวนคนมาดูด้วยตัวเองให้เค้าได้สัมผัสความยากของการทำคลิบวิดีโอ และถ้าเค้ารู้สึกว่า "เหนื่อย ลำบาก มากกว่า สนุก" เค้าก็คงจะเลิกฝันที่จะเป็นยูทูบเบอร์ไปเองโดยปริยาย และถ้าเค้ารู้สึกว่า "สนุก มากกว่า เหนื่อย ลำบาก" แม้ว่าจะไม่ใช่ยูทูบเบอร์จริงๆ เค้าก็อาจจะเหมาะกับงานครีเอทีฟก็ได้ค่ะ