5สิ่งที่ขัดขวางการพัฒนาความสามารถของลูก
3 ปีที่ผ่านมา
เด็กทุกคนเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่อย่างเรามีหน้าที่คอยsupport ยื่นมือช่วย เมื่อลูกต้องการและคอยจัดสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วงวัยค่ะ
แต่หลายครั้งที่เราอาจจะคิดว่าการเลี้ยงลูกให้ดีคือการทำทุกอย่างให้ลูกเวลาลูกต้องการอะไรหรือคอยสอนเวลาที่ลูกทำไม่ถูก ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ค่ะ
เรามาดูกันค่ะว่ามีข้อไหนที่คุณแม่ทำอยู่หรือเปล่า
1. ตัดสินว่าลูกกำลังเล่นซนและให้เลิกเล่นทั้งที่จริงแล้วลูกกำลังฝึกทักษะและเรียนรู้ผ่านการเล่นซน
ยกตัวอย่างเช่นการดึงทิชชู่ เป็นการฝึกการจับ ดึง ปล่อย ซึ่งต้องควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหลายมัด ทั้งมือและแขน แต่ถ้าคุณแม่มองว่าเป็นการเล่นซนแล้วให้หยุด ลูกก็จะไม่ได้ฝึกทักษะและกล้ามเนื้อนี้ค่ะ
ถ้าคุณแม่ไม่อยากให้เล่นทิชชู่เพราะเปลือง แนะนำให้นำผ้ามาเย็บต่อกัน พับวางซ้อนกันแล้วใส่กล่องทิชชู่เพื่อแทนทิชชู่ได้ค่ะ
2.แก้สิ่งที่ลูกทำผิด
ตัวอย่างเช่นลูกระบายสีแอปเปิ้ลเป็นสีชมพู แล้วแม่บอกว่าไม่ใช่ แอปเปิ้ลต้องสีแดงนะ ระบายสีชมพูคือผิด
การบอกว่าลูกผิดจะทำให้ลูกเสียความมั่นใจ และจะเป็นคนที่ไม่ทำอะไรใหม่ๆเอง จะทำตามแม่บอกเท่านั้น
ใหลูกระบายตามที่เค้าต้องการและชมเค้า หลังจากนั้นค่อยบอกว่า ขอแม่ลองระบายดูบ้างนะ และเอาแอปเปิ้ลให้ดูและบอกว่า แอปเปิ้ลมันสีแดงเนอะ แล้วก็ระบายให้ดูค่ะ เราไม่ควรบอกว่าผิด แต่ควรชี้นำให้ลูกเรียนรู้และสังเกตเห็นข้อผิดพลาดด้วยตัวเอง
3.ชี้นำให้ลูกไปเล่นอย่างอื่นตอนที่เค้ากำลังมีสมาธิ จดจ่อเล่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่
เราควรปล่อยให้ลูกมีสมาธิ ทำจนกว่าเค้าจะพอใจค่ะ
4.สิ่งไหนที่ลูกทำไม่ได้ แม่ก็ทำให้หมด
เช่นการผูกเชื่อกรองเท้า พอแม่เห็นว่าลูกทำไม่ได้ซักที แม่จึงทำให้เลย ซึ่งนานเข้าลูกก็จะหมดความกระตือรือร้นที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ จะกลายเป็นคนที่ให้แม่ทำทุกอย่างให้หมด
ควรให้ลูกchallenge ส่วนแม่คอยดูอยู่ห่างๆ ถ้าลูกทำไม่ได้ก็ให้supportและให้ลูกมีประสบการณ์ทำได้ด้วยตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
5.แม่คอยทำทุกอย่างให้ก่อนเพราะกลัวลูกล้มเหลว/ผิดพลาด
เช่นลูกเล่นที่สวนสาธารณะ แม่กลัวว่าลูกจะล้มแล้วบาดเจ็บ จึงพยายามทำให้ลูกไม่ล้ม
แต่จริงๆแล้วควรให้ลูกล้มและมีแผลบ้างเล็กน้อย เพื่อเค้าจะได้เรียนรู้และคอยระวังเองเป็นในอนาคต
เซลส์สมองของเด็กในวัยนี้กำลังสร้างโครงข่ายเน็ตเวิร์คเชื่อมต่อกันอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดในช่วงชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นเราจึงควรปล่อยให้เค้าเป็นอิสระทั้งด้านความคิดและการกระทำ เพื่อให้เค้าได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เหมาะสมในสังคมต่อไปค่ะ
1. ตัดสินว่าลูกกำลังเล่นซนและให้เลิกเล่นทั้งที่จริงแล้วลูกกำลังฝึกทักษะและเรียนรู้ผ่านการเล่นซน ยกตัวอย่างเช่นการดึงทิชชู่ เป็นการฝึกการจับ ดึง ปล่อย ซึ่งต้องควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหลายมัด ทั้งมือและแขน แต่ถ้าคุณแม่มองว่าเป็นการเล่นซนแล้วให้หยุด ลูกก็จะไม่ได้ฝึกทักษะและกล้ามเนื้อนี้ค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่อยากให้เล่นทิชชู่เพราะเปลือง แนะนำให้นำผ้ามาเย็บต่อกัน พับวางซ้อนกันแล้วใส่กล่องทิชชู่เพื่อแทนทิชชู่ได้ค่ะ 2.แก้สิ่งที่ลูกทำผิดตัวอย่างเช่นลูกระบายสีแอปเปิ้ลเป็นสีชมพู แล้วแม่บอกว่าไม่ใช่ แอปเปิ้ลต้องสีแดงนะ ระบายสีชมพูคือผิด การบอกว่าลูกผิดจะทำให้ลูกเสียความมั่นใจ และจะเป็นคนที่ไม่ทำอะไรใหม่ๆเอง จะทำตามแม่บอกเท่านั้นใหลูกระบายตามที่เค้าต้องการและชมเค้า หลังจากนั้นค่อยบอกว่า ขอแม่ลองระบายดูบ้างนะ และเอาแอปเปิ้ลให้ดูและบอกว่า แอปเปิ้ลมันสีแดงเนอะ แล้วก็ระบายให้ดูค่ะ เราไม่ควรบอกว่าผิด แต่ควรชี้นำให้ลูกเรียนรู้และสังเกตเห็นข้อผิดพลาดด้วยตัวเอง3.ชี้นำให้ลูกไปเล่นอย่างอื่นตอนที่เค้ากำลังมีสมาธิ จดจ่อเล่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ เราควรปล่อยให้ลูกมีสมาธิ ทำจนกว่าเค้าจะพอใจค่ะ4.สิ่งไหนที่ลูกทำไม่ได้ แม่ก็ทำให้หมดเช่นการผูกเชื่อกรองเท้า พอแม่เห็นว่าลูกทำไม่ได้ซักที แม่จึงทำให้เลย ซึ่งนานเข้าลูกก็จะหมดความกระตือรือร้นที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ จะกลายเป็นคนที่ให้แม่ทำทุกอย่างให้หมด ควรให้ลูกchallenge ส่วนแม่คอยดูอยู่ห่างๆ ถ้าลูกทำไม่ได้ก็ให้supportและให้ลูกมีประสบการณ์ทำได้ด้วยตัวเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ5.แม่คอยทำทุกอย่างให้ก่อนเพราะกลัวลูกล้มเหลว/ผิดพลาดเช่นลูกเล่นที่สวนสาธารณะ แม่กลัวว่าลูกจะล้มแล้วบาดเจ็บ จึงพยายามทำให้ลูกไม่ล้มแต่จริงๆแล้วควรให้ลูกล้มและมีแผลบ้างเล็กน้อย เพื่อเค้าจะได้เรียนรู้และคอยระวังเองเป็นในอนาคตเซลส์สมองของเด็กในวัยนี้กำลังสร้างโครงข่ายเน็ตเวิร์คเชื่อมต่อกันอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดในช่วงชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นเราจึงควรปล่อยให้เค้าเป็นอิสระทั้งด้านความคิดและการกระทำ เพื่อให้เค้าได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เหมาะสมในสังคมต่อไปค่ะ
พัฒนาการเด็ก, montessori, เลี้ยงดูลูกแบบญี่ปุ่น, มอนเตสซอรี่, เลี้ยงลูกสมัยนี้, เลี้ยงลูกสมัยใหม่, สร้างEQเด็ก, เลี้ยงลูกอย่างไรให้ดี, พัฒนาการทารก, เลี้ยงลูกให้ทันโลก, เลี้ยงลูกให้ฉลาด, วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด, เลี้ยงลูกให้เก่ง, เลี้ยงลูกเชิงบวก, เลี้ยงลูกef, วิธีการเลี้ยงลูก, วิธีเลี้ยงลูกให้เชื่อฟัง
miki mochi ของเล่นเด็ก ของเล่นเสริมพัฒนาการคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่น
สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ
ธ.กรุงศรีอยุธยา
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
miki mochi ของเล่นเด็ก ของเล่นเสริมพัฒนาการคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่น
ของเล่นเด็ก ของเล่นเสริมพัฒนาการ ของเล่นเสริมทักษะแบรนด์PEOPLE แบรนด์ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น มีส่วนผสมของข้าวญี่ปุ่นวัสดุจากธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ทาสี ไร้สารเคมี ไร้สารพิษ ได้มาตรฐานญี่ปุ่น เป็นมิตรกับลูกน้อยของคุณ
เบอร์โทร : 0858044436
อีเมล : mikishop02@gmail.com
อีเมล : mikishop02@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
Member
- พิมพ์ “miki mochi ของเล่นเด็ก ของเล่นเสริมพัฒนาการคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่น” ในช่อง Search
- หรือเข้าจากรายการร้านค้าโปรดของฉัน
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม